Ads



วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557

กระเทียม สรรพคุณ ประโยชน์




กระเทียม สรรพคุณ ประโยชน์

  กระเทียม  Garlic เป็นพืชล้มลุกประเภทหัว มีกลีบย่อยหลายกลีบติดกันแน่น 

สีขาว มีกลิ่นแรง มีหัวใต้ดินแบบ Tunic bulb ลักษณะกลมแป้น เส้นผ่านศูนย์กลาง 

2-4 ซม. มีแผ่นเยื่อสีขาวหรือสีม่วงอมชมพูหุ้มอยู่ 3-4 ชั้น ซึ่งลอกออกได้ แต่ละหัว

มี 6-10 กลีบ  คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากสำหรับกระเทียม มีกลิ่นฉุน นิยมใส่ใน

อาหารหลายชนิดทั้ง ต้มผัด แกง ทอด(เอาไปหมักเนื้อได้) นับว่าเป็นส่วนประกอบ

อาหารเพื่อสุขภาพได้หลาๆอย่างเลยทีเดียว ทำผัดผักรวมใส่เห็ดหูหนูด้วย 

คงอร่อยไม่ใช่น้อย



สารอาหารและคุณค่าทางอาหารของกระเทียม


พลังงาน , โปรตีน , คาร์โบไฮเดรต , ไฟเบอร์ , น้ำตาล , แคลเซียม , เหล็ก ,

แม็กนีเซียม , ฟอสฟอรัส , โพแทสเซียม , โซเดียม , สังกะสี , วิตามินซี ,

ไทอะมิน , ไรโบฟลาวิน , ไนอะซิน , วิตามินบี6 , โฟเลต , วิตามินเอ , วิตามินอี ,

วิตามินเค


ประโยชน์และสรรพคุณของกระเทียม


1. แก้ปัญหาผมร่วง ด้วยการฝานบางๆนำมานวดศรีษะ


2. มีแอนตี้ออกซิแดนท์ สามารถฆ่าเชื้อรักษาสิวได้


3. ใบกระเทียมมีสรรพคุณช่วยทำให้เสมหะแห้ง กระจายโลหิต แก้ลมปวดมวนในท้อง


4. แก้โรคผิวหนังกลากเกลื้อน


5. แก้ผลเน่า และเนื้อร้าย


6. ช่วยบำรุงธาตุ ขับโลหิตระดูด้วย


7. แก้ปวดหู แกหูอื้อ


8. ใช้รักษาโรคบิด


9. ป้องกันมะเร็ง ต่อต้านเนื้องอก


10. ระงับกลิ่นปากและแบคทีเรียในช่องปาก แก้น้ำลายเหนียวและเลือดออกตามไรฟัน


11. มีกลิ่นที่ฉุนจึงสามารถไล่ยุงได้ดี


12. ขับพยาธิในท้อง จุกเสียดแน่น ช่วยขับปัสสาวะ  อาหารไม่ย่อย


13. บำรุงปอด ปอดพิการ ปอดบวม


14. ลดระดับไขมัน คอลเลสเตอรอล และลดน้ำตาลในเลือด


15. แก้โรคในช่วงปาก แห้คออักเสบ


16. สามารถป้องกันโรคหัวใจ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย


17. ป้องกันและรักษาโรคหวัด ไข้


18. ลดความดันโลหิตสูง


19. แก้หืดและโรคหลอดลม


20. มีสารอัลลิซินเป็นตัวช่วยทำให้เลือดไหลเวียนมายังบริเวณที่ทาถูนวดยา ช่วยให้

อาการเคล็ดขัดยอก ปวดต่างๆบรรเทาลง


กระเทียมมีสรรพคุณและประโยชน์มากมาย ถึงจะมีกลิ่นฉุนแต่ก็น่าสนใจที่จะทาน

อยู่นะครับ



เห็ดหูหนู ประโยชน์ สรรพคุณ




เห็ดหูหนู ประโยชน์ สรรพคุณ

   เห็ดหูหนู เห็ดหูหนู ชื่อวิทยาศาสตร์: Auricularia auricula-judae อยู่ในวงศ์ 

Auriculariaceae ดอกเห็ดเป็นวุ้นทรงถ้วย รูปร่างคล้ายหูไม่แน่นอน ผิวด้านนอกสี

น้ำตาลอมเหลือง แดง หรือเทา มีขนเล็กๆ ผิวด้านในสีอ่อนกว่า ไม่มีขน มีรอยหยักย่น

ออกจากโคนไปถึงปลาย สปอร์รูปรี ใส ผิวเรียบ เห็ดหูหนูชนิดบาง เกิดขึ้นตาม

ธรรมชาติทั่วทุกแห่งของไทย แต่หากเกิดขึ้นในที่สูงมักมีสีค่อนข้างคล้ํา ดอกมีความ

บางคล้ายเยลลี่ สีน้ําตาลอ่อน หรือ สีดํา ผิวเรียบ ไม่มีขนทั้ง 2 ด้าน  เป็นเห็ดที่รับ

ประทานได้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ หาซื้อได้ตามร้านขายผักทั่วไปหาง่ายกว่า หัวปลี 

ในบทความที่แล้วแน่นอน เอามาทำเป็นผัดผัก ใส่ในแกงจืด หรืออาหารอบ ก็ได้

หลายอย่างเลยทีเดียว




คุณค่าและสารอาหารของเห็ดหูหนู


โปรตีน , กาก , เถ้า , คาร์โบไฮเดรท , พลังงาน , แคลเซียม , เหล็ก , ฟอสฟอรัส ,

วิตามินบี 1 , วิตามินบี 2 , วิตามินซี , ไนอาซิน


ประโยชน์และสรรพคุณของเห็ดหูหนู


1. ช่วยลดความข้นของเลือด ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น


2. ชะลอความเสื่อมของเซลล์


3. ช่วยให้ไม่มีลิ่มเลือดไปอุดตันตามอวัยวะต่างๆทั้ง เส้นเลือดสมอง หัวใจ


4. ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน


5. เสริมสร้างภูมิต้านทาน ภูมิคุ้มกัน


6. มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง


7. บำรุงอวัยวะภายในเช่น ปอด ไต หัวใจ


8. ช่วยลดความดันโลหิต


9. บำรุงร่างกายปรับสมดุล ช่วยให้พักผ่อนได้เต็มที่เหมาะสมหรับผู้ที่นอนไม่หลับ

ใจสั่น หรือผู้สูงอายุ


10. สาระสำคัญคือบำรุงเลือด ซึ่งส่งผลต่อ ความดัน สมอง และหัวใจให้ทำงาน

 ได้ดีลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวกับอวัยวะภายในได้ดี


สรรพคุณของเห็ดหูหนูเน้นไปทางสุขภาพภายในที่ส่งผลโดยตรงต่อร่างกาย

อย่าลืมหามาทานกันบ้างนะครับ




หัวปลี ประโยชน์สรรพคุณ




หัวปลี ประโยชน์ สรรพคุณ

  หัวปลี (Banana Blossom)เป็นช่อดอกของ ต้นกล้วย ชาวบ้านนิยมนำมาลวกจิ้ม

น้ำพริกกินแกล้มกันไป มีรสฝาด ถ้ากินสดๆหรือนำมากินกับผัดไทย ขนมจีน หรือส้มต้ม 

กินสดๆแกล้มกันไป นับว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอีกอย่างนึง ซึ่งหาได้ง่ายๆไม่แพ้

มะละกอเลยทีเดียวแต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนึกจะกินก็กินได้เพราะต้องรอมันออกดอก แต่

ก็มีมาให้กินไม่ขาดแน่นอน



ประโยชน์และสรรพคุณของหัวปลี


1. ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร


2. ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร


3. บำรุงน้ำนม


4. มีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี และเบต้า-แคโรทีน


5. ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย


6. ชะลอความแก่ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ


7. ป้องกันมะเร็ง


8. ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดี


9. แก้ร้อนใน


10. ยางจากปลีกล้วยช่วยรักษาแผลสด แผลเปื่อย แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แหม่ๆ

ไม่ใช่โฆษณาละ ฮ่าๆๆ


    ปลีกล้วยของอร่อยของใครหลายคนมีประโยชน์พร้อมด้วยจสรรพคุณมากมาย

เลยครับ




มะละกอ ประโยชน์สรรพคุณของมะละกอ




มะละกอ ประโยชน์ สรรพคุณ

  มะละกอ papaya เป็นไม้ผลชนิดหนึ่ง สูงประมาณ 5-10 เมตร มีถิ่นกำเนิดใน

อเมริกากลาง ถูกนำเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผลดิบมีสีเขียว

เมื่อสุกแล้วเนื้อในจะมีสีเหลืองถึงส้ม นิยมนำมารับประทานทั้งสดและนำไปปรุงอาหาร

เช่น ส้มตำ แกงส้ม ฯลฯ หรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็ได้ นับได้ว่าเป็น

อาหารเพื่อสุขภาพทั้ง เป็นของคาวก็ได้กินเป็นผลไม้ก็ได้มีเนื้ออนเมื่อผลสุก แข็งเมื่อ

ยังดิบนำไปทำส้มตำก็ได้ หรือแกงก็ได้ ผลสุกนำไปหั่นทานเป็นผลไม้แช่เย็นไว้กิน

ก็สดชื่นไปอีกแบบ ไม่เปรี้ยวแบบมะยมแน่นอน 555+



สารอาหารที่สำคัญของมะละกอ


โปรตีน , คาร์โบไฮเดรต , ไฟเบอร์ , น้ำตาล , แคลเซีม , เหล็ก , แม็กนีเซียม ,

ฟอสฟอรัส , โพแทสเซียม , โซเดียม , (สังกะสีอีกนิดหน่อย) , วิตามินซี

ไทอะมิน , ไรโบฟลาวิน , ไนอะซิน , วิตามินบี6 อีกอย่างละนิด , โฟเลต , วิตามินเอ ,

วิตามินอี , วิตามินเค


ประโยชน์และสรรคุณของมะละกอ


1. ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน


2. เป็นยาระบาย ถ่ายท้องเป็นยาระบายอ่อนๆ แก้ท้องผูก


3. ช่วยย่อยโปรตีน ฆ่าพยาธิได้


4.ขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา (ราก)


5. เปลือกมะละกอ - ทำน้ำยาขัดรองเท้าได้


6. แก้โรคลักปิดลักเปิดเพราะมีวิตามินซีสูง


7. ยางมะละกอช่วยรักษาหูดได้เป็นอย่างดี


8. รากมะละกอสดตำให้แหลกผสมเหล้าโรงพอกแก้เคล็ดขัดยอกได้ดี


9. ผลสุกช่วยป้องกันโรคปวดข้อปวดหลัง ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อได้


10.  บำรุงธาตุ แก้ธาตุไม่ปกติ หรือธาตุไฟเข้าแทรก (เอ้ยสรรพคุณธาตุไฟเข้าแทรกนั่นไม่ใช่ละครับ ผมมั่ว ฮ่าๆๆ)


11. ช่วยเจริญอาหาร


12. บำรุงน้ำนม


13. ขับลม ปรับสมดุล


14. บำรุงหัวใจ


15. ป้องกันนิ่วในทางเดินปัสสาวะ


16. ดูแลและบำรุงตับ


17. ยางมะละกอมีสรรพคุณใช้ลบรอยฝ้าบนใบหน้า


18. มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิดช่วยการรักษาสุขภาพและป้องกันโรคอย่าง

โรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ


19. บำรุงประสาทและสมอง


20.   แก้อาการปวดบวม โดยนำไปย่างหรือต้มน้ำร้อนแล้วเอามาประคบในบริเวณที่ปวด


มะละกอ อาหารเพื่อสุขภาพของดีมีประโยชน์มากมายเลยครับ





มะยม ประโยชน์ สรรพคุณ




มะยม ประโยชน์ สรรพคุณ

  มะยม  Star Gooseberries (ชื่อวิทยาศาสตร์: Phyllanthus acidus)  เป็นไม้

ยืนต้น ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงประมาณ 3 – 10 เมตร เปลือกไม่แข็งเป็นปุ่มๆ 

เนื้อ่อนบาง ใบเดี่ยวเป็นรูปไข่กิ่งเล็กเรียว (เอามาทำไม้เรียวแสบนักแล) มีดอกเล็ก

สีชมพู  ติดผลเป็นพวง เป็นพูรอบเมล็ดรูปร่างกลม แข็ง สีน้ำตาลอ่อน 1 เมล็ด มีทั้ง

พันธุ์เปรี้ยวและพันธุ์หวาน ซึ่งมีรสหวานอมฝาดพบหาทานได้ทั่วไป ไม่แพ้มะม่วง

เช่นกัน นำมากินเพื่อสุขภาพก็ได้ จิ้มพริกน้ำปา กินสดๆ ช่วยให้กระชุ่มกระชวยดี



ประโยชน์และสรรพคุณของมะยม


1. ละลายเสมหะ แก้ไอ ชุ่มคอ


2. มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย แน่นอนช่วย

ให้ไม่แก่ก่อนวัย


3. เป็นยาระบาย


4. บำรุงโลหิต


5. ใบใช้ต้มน้ำแก้พิษไข้ ตัวร้อน ไข้หัว หรืออาบแก้ผื่นคัน หัด ดำแดง สุกใส ฝีดาษ

เหือด และพิษไข้หัว


6. บำรุงประสาท


7. ใช้แก้ไข้ทับระดู ระดูทับไข้


เปรี้ยวๆอร่อยๆ แบบนี้ประโยชน์ก็มีไม่น้อยนะครับ ที่สำคัญใช้เป็นไม้เรียวได้ด้วยฮ่าๆๆ




มะม่วง อร่อยของอร่อยมีประโยชน์ (สรรพคุณ)




มะม่วง ประโยชน์ (สรรพคุณ)

   มะม่วง หรือ Mango ผลไม้เมืองร้อน  เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ใบโต ยาว ปลาย

แหลม ขอบใบเรียบ ใบอ่อนสีแดง ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่้งดอกขนาดเล็ก สีขาว

ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีเหลือง เมล็ดแบน เปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง มีหลายสายพันธ์ เป็น

พืชเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่อร่อย เป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้เป็นอย่างดี กินง่าย

หาง่าย อร่อย หาซื้อหาทานง่ายไม่แพ้มะนาว และมีหลายสายพันธ์ให้เลือกกินเลือกทาน

ตามฤดูกาลเลยทีเดียว



สารอาหารและคุณค่าทางอาหารของมะม่วง


โปรตีน , คาร์โบไฮเดรต , ไฟเบอร์ , น้ำตาล , แคลเซียม , เหล็ก , แม็กนีเซียม ,

ฟอสฟอรัส , โพแทสเซียม , โซเดียม , ซิงค์(สังกะสี) , วิตามินซี ไทอะมิน , รีโบฟลาวิน ,

ไนอะซิน , วิตามินบี 6 , โฟเลต , วิตามินเอ , วิตามินอี , วิตามินเค


ประโยชน์และสรรพคุณของมะม่วง


1. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ


2. โพแทสเซียมในมะม่วงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง


3. ธาตุเหล็กมีหน้าที่สำคัญในการนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น


4. เส้นใยไฟเบอร์ของมะม่วงมีสรรพคุณช่วยในการขับถ่าย


5.แก้อาการท้องอืดแน่นเฟ้อและแน่นท้อง


6. ผลมะม่วงดิบมีวิตามินซีสูง แก้เลือดออกตามไรฟัน


7. วิตามินเอ อี ซี แหม่ไม่ใช่อาเซียน ฮ่าๆๆ ช่วยบำรุงผิวพรรณมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่ง


8. เคี้ยวใบสดๆรักษาโรคทางเหงือกและฟัน


9. มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ


10. ช่วยป้องกันการอักเสบ เชื้อโรค เชื้อไวรัส


11. ใบสดต้มน้ำดื่มแก้ท้องอืดแน่น ลำไส้อักเสบเรื้อรัง


12. นำใบมาตำละเอียดพอกแผลให้สมานหายได้เร็วขึ้น


13. แก้คลื่นไส้ แก้บิดถ่ายเป็นเลือด


14. ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร


15.ป้องกันโรคเหน็บชา จากวิตามินบี1


16. วิตามินบี 2 ป้องกันไขมันอุดตัในเส้นเลือด


17. มีสารต้านอนุมูลอิสระ


18. วิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา


19. แก้อาการร้อนใน


20. ปรับสมดุลในร่างกาย ผ่อนคลาย ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ


มะม่วงมีประโยชน์อร่อยหาทานสะดวกมากครับ แต่ควรระวังการรับประทารมะม่วงสุกใน

ผู้ป่วยเบาหวานอย่าให้เยอะจนเกินไปนะครับ




มะนาว เปรี้ยวปรี๊ดมากประโยชน์ สรรพคุณ



มะนาว ประโยชน์ สรรพคุณ

     มะนาว (อังกฤษ: Lime) เป็นไม้ผลชนิดหนึ่ง ผลมีรสเปรี้ยวจัด จัดอยู่ในสกุลส้ม

(Citrus) ผลสีเขียว เมื่อสุกจัดจะเป็นสีเหลืองเป็นไม้พุ่มสูง 2 - 4 เมตร กิ่งอ่อนมีหนาม

เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ มักนำไปเป็นเครื่องปรุงรส ใส่ในอาหารหรือ กินสดๆ ดื่มเอาน้ำ

เป็นส่วนประกอบอาหารต่างๆมากมาย เพิ่มรสชาติ หากินและทำออกมาได้หลากหลาย

กว่า ฟ้าทะลายโจรในบทความที่แล้วอยู่มาก



สารอาหารในมะนาว


โปรตีน , คาร์โบไฮเดรต , ไฟเบอร์ , น้ำตาล , แคลเซียม , เหล็ก , แม็กนีเซีย ,

ฟอสฟอรัส , โพแทสเซียม , โซเดียม , ซิงค์(สังกะสี นิดหน่อย) , วิตามินซี  ,

ไทอะมิน , ไรโบฟลาวิน , ไนอะซิน , วิตามินบี6 , โฟเลท , วิตามินเอ , วิตามินอี ,

วิตามินเค


สรรพคุณและประโยชน์ของ มะนาว


1. สรรพคุณของมะนาวที่มีไฟเบอร์ ช่วยลดความอยากอาหารลดความอ้วนได้


2. ช่วยระบบย่อยอาหาร


3. เสริมส้รางภูมิคุ้มกัน


4. แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ


5. จิบน้ำแก้เสมหะ แก้ไอ ล้างเสมหะในลำคอ


6. ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย


7. กระตุ้นและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน


8. บรรเทาอาการเลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม


9. แก้อาการปวดศีรษะ


10. แก้อาเจียน


11. บำรุงตา


12. บำรุงผิวพรรณ จากวิตามินซี


13. ควบคุมความดันโลหิต


14. กระตุ้นระบบประสาทและสมอง


15. ขับปัสสาวะ


16. ช่วยให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า บรรเทาอาการอ่อนเพลีย


17. ใช้น้ำมะนาวทาที่รักแร้ช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์


18. แก้ร้อนในกระหายน้ำ


19. แก้โรคเหน็บชา อาการบิด และท้องผูก


20. แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้หนอนคัน และแก้สังคัง


มะนาวของอร่อยประโยชน์เยอะทั้งภายในและภายนอกเลยนะครับ




ฟ้าทะลายโจร ประโยชน์ สรรพคุณ




ฟ้าทะลายโจร ประโยชน์ สรรพคุณ

    ฟ้าทลายโจร หรือน้ำลายพังพอน , สามสิบดี , ฟ้าสะท้าน , เมฆทะลาย , คีปัง ,

ชวงชิมน้อย , โข่งเช่า (จีน)


(ชื่อวิทยาศาสตร์: Andrographis paniculata Wall ex Ness.) 


ชื่อสามัญ :    Kariyat , The Creat


เป็นพืชล้มลุก จัดให้เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ที่สามารถหามารับประทานแก้โรคได้เอง อาจ

จะไม่ใช่อาหารเพื่อสุขภาพทั่วๆไปเพราะ มีรสขมไม่นิยมนำมากินกันแต่ก็ถือว่าหลายๆบ้าน

มีปลูกไว้หาได้ไม่ยากนัก ลำต้นสูงประมาณ  1 - 2 ฟุต ใบเรียวแหลมคล้ายหอกมีผิวมัน

ใบเล็ก ปลูกเป็นไม้ประดับหรือเอามาทำเป็นยาก็ได้ หาง่ายกว่าผักแว่นด้วยซ้ำ



สรรพคุณและประโยชน์ของฟ้าทลายโจร


1. แก้ไข้ ไข้หวัดใหญ่


2. ระงับอาการอักเสบ  พวกไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล


3. แก้หลอดลมอักเสบ


4. ขับเสมหะ


5. รักษาฝี


6.  แก้อาการท้องเสีย บิด และแก้กระเพาะลำไส้อักเสบ


7. ช่วยเจริญอาหาร


8. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง


9. แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ


10. แก้ปอดอักเสบ แก้บิด


11. แก้ท้องเดิน


12. ต้มกินกับเบญจมาศสวนดื่มแก้ไส้ติ่งอักเสบ


13. ลดความดันโลหิต


14. บดผสมน้ำมันพืชใช้ทาแผลน้ำร้อนลวก


15.  แก้หลอดลมอักเสบ


16. แก้ติดเชื้อมีฤทธิ์ระงับการติดเชื้อหรือระงับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้


17. ยาผงใช้สูดดม เอามาบดเป็นผงช่วยลดน้ำมูก และช่วยฆ่าเชื้อที่จมูก


18. ลดน้ำตาลในเลือด


19. ต้านอนุมูลอิสระ


20. กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

ไม่แนะนำให้ สตรีที่ตั้งครรภ์ ผู้ที่ความดันต่ำ โรคหัวใจ โรคไต ใช้มากและไม่ควรใช้จะดีกว่า




วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

ผักแว่น ประโยชน์ สรรพคุณ




ผักแว่น ประโยชน์ สรรพคุณ

   ผักแว่น (ชื่อวิทยาศาสตร์: Marsilea crenata) Water clover, Clover fern 

เป็นเฟินน้ำชนิดหนึ่ง มีอายุหลายปี พบได้ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จัดอยู่ในวงศ์ Marsileaceae ทางใต้เรียกผักลิ้นปี่มักนำมารับประทานเป็นผักแกล้ม โดย

เฉพาะกับขนมจีนน้ำยา เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ค่อนข้างหายากกว่าผักบุ้งอยู่หน่อย

ในด้านคววามง่ายในการนำมาปรุงอาหารด้วยส่วนใหญ่จะนำมาเป็นผักแกล้มกับน้ำพริด

ลาบ ขนมจีน เสียมากกว่า

ผักแว่น ประโยชน์ สรรพคุณ


คุณค่าทางอาหารและสารอาหารของผักแว่น


โปรตีน , แคลเซี่ยม , ฟอสฟอรัส , เหล็ก , ไนอาซีน , วิตามินซี , เบต้า-คาโรทีน


ประโยชน์และสรรพคุณของผักแว่น


1. แก้ร้อนใน กระหายน้ำ


2. รักษาแผลในปาก ช่วยระบายความร้อน ร้อนใน


3. รักษาแผลเปื่อย แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก โดยตำละเอียดคั้นเอาน้ำมาทาแผล


4. สามารถลดการเกิดหนองและอักเสบในแผลได้


5. ขับปัสสาวะ


6. แก้ท้องเสีย


7. ลดไข้


8. รักษาโรคปากเปื่อย ปากเหม็น


9. ลดอาการเจ็บคอ


10. แก้ดีพิการ


11. สมานแผลในปากและลำคอ


12. เสริมสร้างเม็ดเลือดแดง


13. บำรุงสายตา


14. ใช้เป็นยาภายนอก รักษาแผลเปื่อย แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก


15. ผักแว่นทั้งต้น ต้มน้ำดื่ม เพื่อแก้เจ็บคอ แก้เสียงแหบ


16. บรรเทาอาการปวดศรีษะ


17. รักษาโรคเก๊าท์


18. แก้อาการผิดสำแดง


19. แก้เจ็บคอ แก้เสียงแหบ


20.  มีการพัฒนายาเตรียมชนิดครีมจากสรรพคุณของผักแว่น ให้สามารถทารักษา

แผลอักเสบจากการผ่าตัด


นับว่าผักแว่นเป็นอาหารอีกชนิดที่มีประโยชน์อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว







วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

ผักบุ้งจีน ปลูกง่ายประโยชน์เยอะ สรรพคุณแยะ




ผักบุ้งจีน ประโยชน์ สรรพคุณ

   ผักบุ้งจีน Ipomoea aquatica พืชเขตร้อนเป็นไม้ล้มลุกที่ปลูกง่ายโตเร็วใช้เวลา

ไม่นานและเป็นที่แพร่หลายมากในไทยเป็นผัก และอาหารเพื่อสุขภาพที่สามารถหา

กินได้อย่างง่ายดายอีกชนิดนึง (หาง่ายกว่าผักชีลาว บทความที่แล้วเยอะ) และเป็น

อาหารพื้นๆที่หลายคนชื่นชอบเป็นอย่างมากมักนำมาทำเป็นอาหารอย่าง ผัดผักบุ้ง

ไฟแดง ผักบุ้งลวกจิ้มน้ำพริก กินแกล้มกับส้มตำ ใส่ในแกงก็ยังได้ ประโยชน์ดีหา

กินง่ายทำอาหารสะดวกแบบนี้นับว่าเยี่ยมมาก


สารอาหารและคุณค่าได้จากจากผักบุ้งจีน


โปรตีน , คาร์โบไฮเดรต , แคลเซียม , เหล็ก , แม็กนีเซียม , ฟอสฟอรัส ,

โพแทสเซียม , โซเดียม , ซิงค์(สังกะสี) , วิตามินซี , ไทอะมิน , ไรโบฟลาวิน ,

ไนอะซิน , วิตามินบี6 (เล็กน้อย) , โฟเลท วิตามินเอ


ประโยชน์และสรรพคุณของผักบุ้งจีน


1. ถอนพิษผิดสำแดง แก้พิษยาเบื่อเมา


2. ตำแล้วเอามาพอกทาแก้พิษฝี และสามารถแก้อักเสบแก้บวมได้


3. เบต้า-แคโรทีนรักษาสุขภาพและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง


4.มีสารต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านมะเร็งและทำให้ดูอ่อนวัย


5. บำรุงสุขภาพของดวงตา ลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการ

เป็นต้อกระจก ตาฝ้าฟาง ตาแดง สายตาสั้น อาการคันนัยน์ตา


6. ชะลอความแก่


7. สามารถลดน้ำตาลในกระแสเลือดสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน


8.เนื่องจากผักบุ้งมีรสเย็นจึงช่วยบรรเทาอาการร้อนในได้อีกด้วย


9. ช่วยควบคุมความสมดูลของน้ำในร่างกาย


10. ป้องกันโรคภูมิแพ้ ที่ได้มาจากสารโพแทสเซียม


11. ช่วยทำความสะอาดของเสียที่ตกค้างในลำไส้


12. ป้องกันโรคท้องผูก เป็นยาระบาย


13. แก้อาการเหงือกบวม แผลร้อนในในปาก


14. ช่วยในการบำรุงโลหิต


15. บำรุงธาตุ


16. ช่วยบำรุงกระเพาะ ไม่ให้เป็นโรคกระเพาะ


17. ช่วยให้กระดูก ผม ฟัน และเหงือกแข็งแรง


18. สร้างภูมิต้านทานให้ระบบหายใจ


19. ลดการอักเสบของสิว และช่วยลบจุดด่างดำ


20. บำรุงร่างกายและผิวพรรณ


ผักบุ้ง อาหารเพื่อสุขภาพหากินง่ายดาย ประโยชน์เยอะแยะมากมายจ้า



วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

ผักชีลาว ประโยชน์ สรรพคุณ




ผักชีลาว ประโยชน์ สรรพคุณ

       ผักชีลาว (Anethum graveolens Linn) ต่างประเทศมักเรียกว่าดิลล์หวีด

หรือหญ้าดิลล์ (dill weed) เป็นพืชจัดอยู่ในพวกผักชี ต้นสูงประมาณ 1-2 ฟุต ใบเป็น

แบบขนนกออกจะคล้ายๆชะอม แต่ไม่ใช่ซะทีเดียว ใบเป็นเส้นฝอยๆรอบทรงเป็นกิ่ง

ตามยอดไปเรื่อยๆไม่แน่นอน มีกลิ่นฉุนมากกว่าผักชี และ ผักชีฝรั่ง มีดอกเล็กสีขาว

เป็นช่อใหญ่  ชื่อที่แตกต่างของผักชีลาว คือ ผักจี(ภาคเหนือ) ผักชีเหม็น ผักหอมน้อย

ผักหอมผอม นับว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นสมุนไพรที่ไม่ค่อยหาทานได้ง่ายนัก

และบางคนก็ไม่ชอบใจในกลิ่นของมันซักเท่าไหร่ แต่มันมีประโยชน์มากเลยนะครับ


ผักชีลาว ประโยชน์ สรรพคุณ


สารอาหารในผักชีลาว

โปรตีน , คาร์โบไฮเดรต , แคลเซียม , เหล็ก , แม็กนีเซียม , ฟอสฟอรัส ,

โพแทสเซียม , โซเดียม , สังกะสี (นิดหน่อย) , วิตามินซี , ไทอะมิน ,

ไรโบเฟลวินหรือ วิตามินบี2 , ไนอะซิน(ในปริมาณที่สูงกว่าสารอื่นๆ) , วิตามินบี 6 ,

โพเลท , วิตามินเอ


ประโยชน์และสรรพคุณของ ผักชีลาว


1. แก้ไข้ที่เกิดจากซาง


2. บำรุงธาตุ


3. แก้สะอึก


4. แก้ร้อนในกระหายน้ำ


5. แก้คลื่นไส้อาเจียน


6. แก้ไข้หัว ไข้พิษ


7. แก้อาการเจ็บตา


8. ขับลมในลำไส้ (ผล) เจริญอาหาร


9. แก้ไตพิการ (ผล)


10. แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ อาการจุกเสียดแน่นท้อง


11. รากเป็นกระสายยา กระทุ้งพิษไข้หัว แก้ไอและระคายเคืองคอ


12. ควบคุมความสมดุลของน้ำในร่างกาย


13. ลดความดันโลหิต


14. แก้โรคภูมิแพ้


15. เสริมสร้างกระดูกและฟัน


16. ดับกลิ่นคาวในเนื้อสัตว์


17.  เมล็ดแห้งที่แก่เต็มที่ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง


18. มีปริมาณไนอะซินหรือ วิตามินบี3 ที่สูง ทำลายพิษหรือท็อกซินจากมลพิษ

รักษาโรคทางจิตและโรคเกี่ยวกับความผิดปกติทางสมอง


19. ช่วยรักษาโรคปวดหัวไมเกรน


20. วิตามินเอ มีผลต่อการเจริญเติบโต การสร้างกระดูก และระบบสืบพันธุ์ นอกจากนี้

ยังป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และระบบขับปัสสาวะ

ทำให้ผิวและผมแข็งแรง


ผักชีลาวนั้นนิยมโรยบนสลัดผักและมันฝรั่งบดเพื่อเพิ่มรสชาติ นอกจากนี้น้ำมัน

ผักชีลาวยังใช้แต่งกลิ่นผักดอง น้ำซอส สตู ขนมหวาน เครื่องดื่มและเหล้า

อีกด้วย




วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

ผักชีฝรั่ง ประโยชน์ สรรพคุณ




ผักชีฝรั่ง ประโยชน์ สรรพคุณ


ผักชีฝรั่ง 


ผักชีฝรั่ง coriander เป็นไม้ล้มลุกเมืองร้อนปีเดียวหรือหลายปี ในวงศ์ผักชี

(Apiaceae) มีถิ่นกำเนิดในประเทศเม็กซิโกและทวีปอเมริกาใต้ แต่มีการปลูกเลี้ยง

ไปทั่วโลกไม่มีก้านใบ ใบรูปหอก ยาวรี โคนใบสอบลง ยาวประมาณ 10-15

เซนติเมตร กว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร ขอบใบจักรแบบฟันเลื่อย เป็นพืช

ล้มลุกขนาดเล็ก เป็นกอคล้ายใบเตย ขอบใบหยักคล้ายใบเลื่อยผักชีฝรั่งนั้น

สามารถนำไปประกอบอาหาร ทำเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ใส่ลงใน ต้มยำ กิน

เป็นผักเคียงกับอาหารที่มีรสเผ็ด มีกลิ่นหอมฉุน รับประทานเป็นผักสดได้

แกล้มกับน้ำพริกเหมือนผักโขมก็ได้เช่นเดียวกัน

ผักชีฝรั่ง ประโยชน์ สรรพคุณ


ประโยชน์และสรรพคุณของ ผักชีฝรั่ง


1. แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า บำรุงธาตุ บำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ


2. ดับกลิ่นปาก


3. เป็นยาระบายช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่น ระบายท้อง


4. บำรุงสายตา


5. ควบคุมและลดระดับความดันโลหิต


6. บรรเทาอาการวิงเวียนปวดศรีษะแก้ไข้ ขับเหงื่อ


7. ขับลมขับแก๊สในกระเพาะอาหาร


8. รักษาผิวพรรณช่วยรักษาอการผดผื่นคันตามผิวหนัง แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย


9. ช่วยให้การทำงานของต่อมไทรอยด์เป็นปกติ


10. ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล และบำรุงหัวใจ


11. ปรุงรสและดับกลิ่นคาวของอาหารได้


12. สร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง  


13. ช่วยให้ผิวหนัง เล็บ เส้นผมแข็งแรงขึ้น


14. แก้ไข้มาลาเรีย    


15. แก้อาการของอาหารเป็นพิษ


16. โรคเก้าต์และไขข้ออักเสบ


17. ช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย


18. ยังยั้งและชะลอการเกิดเซลล์มะเร็งได้


19. บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง


20. นำไปมาตำแล้วพอกช่วยลดอาการปวดบวม หรือแผลเรื้อรังได้


ผักชีฝรั่ง ผักกลิ่นหอมมีประโยชน์เยอะแยะอย่าลืมหามาทานกันนะครับ





วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

ผักชี ประโยชน์สรรพคุณมากมี




ผักชี ประโยชน์สรรพคุณมากมี

   ผักชี (อังกฤษ: Coriander; ชื่อวิทยาศาสตร์: Coriandrum sativum) เป็นพืช

ล้มลุกขนาดเล็กในวงศ์ Apiaceaeเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก สูง 20 -60 เซนติเมตร

เนื้ออ่อนผิวเรียบ ใบใก้ลยอด มีใบย่อยเป็นจำนวนมาก ใบหยักลึกเข้าหากลางใบ

สามารถนำไปเป็นอาหารได้ทั้งต้น ดอกช่อ ดอกย่อยสีขาวอมชมพู ผลมีลักษณะรี

ค่อนข้างกลม แก่จัดเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล มีเมล็ด 2 เมล็ด เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ

อีกอย่างนึง ไม่ต่างจากผักชีฝรั่ง ที่เคยกล่าวมาแล้ว สามารถนำไปเป็น ส่วนประกอบ

ของ เครื่องหมักเนื้อสัตว์ ใส่ในแกง กินสดๆแกล้มกับอาหารได้หลากรายชนิด ทั้งราก

ต้น และใบ เลยทีเดียวมีประโยชน์ไม่ต่งจากผักโขมเลยทีเดียว


คุณค่าและสารอาหารในผักชี


โปรตีน , คาร์โบไฮเดรต , ไฟเบอร์ , แคลเซียม , เหล็ก , แม็กนีเซียม , ฟอสฟอรัส ,

โพแทสเซียม , โซเดียม , สังกะสี , วิตามินซี , ไทอะมิน , Riboflavin , ไนอะซิน


ประโยชน์และสรรพคุณของผักชี


1. ขับเหงื่อ ขับลม  แก้อีสุกอีใส


2. แก้ท้องอืด  ท้องเฟ้อ ช่วยเจริญอาหาร  ช่วยย่อยอาหาร แก้คลื่นไส้อาเจียน


3. ขับเสมหะบรรเทาอาการหวัด


4. พอกทาแก้ผื่นคัน


5. ต้มดื่มกินแก้ไอ


6. แก้วิงเวียนศรีษะ หวัดแก้ สะอึก


7. ต้่มดื่มช่วยแก้อาหารเป็นพิษ


8. แก้ปวดฟัน


9. ช่วยขับปัสสาวะ


10. มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ ต่อต้านเซลล์มะเร็ง


11. แก้หัดหรือผื่น


12. ผลคั่วบดละเอียด ผลสมเหล้า ทาแก้ริดสีดวงทวาร


13. ดับกลิ่นคาวของอาหาร


14. ลดอาการปวดบวมตามข้อกระดูก


15. รากผักชีเป็นกระสายยา กระทุ้งพิษไข้หัว เหือดหัด สุกใส แดงดำ


16. ต้มน้ำเอามาบ้วนปากแก้ปวดฟัน


17. แก้คลื่นเหียนอาเจียน ขับลมในลำไส้


18. บำรุงกระเาพช่วงเจริญอาหาร


19. ผักชีมีสาร โพแทสเซียม มากกว่าสารอาหารอื่นของมันซึ่งช่วยใยนการลด

ความดันโลหิต ปรับสมดุลของน้ำในร่างกาย ทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติ


20.  โพแทสเซียมยังช่วยระบบภูมิต้านทาน ภูมิแพ้ รวมไปถึงช่วยกำจัดของเสีย

ในร่างกาย


ผักชีของดีมีประโยชน์อย่าลืมหาทานบ้างนะครับหาทานง่ายๆ อาหารเพื่อสุขภาพทั้งนั้น




ผักโขม ประโยชน์คุณค่า สรรพคุณ




ผักโขม ประโยชน์คุณค่า สรรพคุณ

     ผักโขม (อังกฤษ: Amaranth ) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Amaranthus lividus 

จัดอยู่ในวงศ์   Amaranthaceae   ผักโขมเป็นไม้พุ่มเตี้ยและเป็นพืชล้มลุกเป็น

อาหารเพื่อสุขภาพ สามารถนำมาจิ้มกินกับน้ำพริก โดยการลวก ผัดก็ได้ ใส่ใน

แกงเลียงก็ดี  แกงจืดผักโขมหมูบะช่อ สลักผักโขม ซุปผักโขม ก็เหมาะ ผักโขม

เหมาะสมเป็นผักที่กินได้ทุกสถานการณ์ไม่แพ้ ถั่วงอกแน่นอน

ผักโขม ประโยชน์คุณค่า สรรพคุณ


คุณค่าสารอาหารในผักโขม ได้แก่

โปรตีน , คาร์โบไฮเดรต , แคลเซียม , เหล็ก , แม็กนีเซียม , ฟอสฟอรัส , 

โพแทสเซียม , โซเดียม , สังกะสี , วิตามินซี , ไทอะมิน , Riboflavinหรือ 

วิตามินบี 2 , ไนอะซิน , วิตามินบี 6 , โฟเลท , วิตามินบี 12 , วิตามินเอ , 

วิตามินเค


ประโยชน์และสรรพคุณของผักโขม


1.  ช่วยในการมองเห็น และช่วยบำรุงสายตา


2. ผิวพรรณเปล่งปลั่งสร้างคอลลาเจนเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว


3. ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง


4. ช่วยย่อย ป้องกันมะเร็งลำไส้ ระบายท้องช่วยเรื่องท้องผูก


5. มีสารต้านอนุมูลอิสระชะลอความแก่ และชะลอความเสื่อมถอยของเซลล์ในร่างกาย


6. บำรุงโลหิตและการไหลเวียนของเลือด


7. เสริมสร้างการทำงานของสมอง จากธาตุเหล็ก


8. ควบคุมการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ


9. ป้องกันโรคทางหลอดเลือดหัวใจ โดยจะไปลดความดันเลือดลง และป้องกัน

การเกาะของโคเลสเตอรอลในหลอดเลือดแดง 


10. ช่วยป้องกันการเกิดอาการ ไมเกรน 


11. ช่วยสร้างและรักษากล้ามเนื้อ  เผาผลาญคาร์โบไฮเดรตช่วยในการสังเคราะห์

โปรตีน จาก โพแทสเซียม


12. เสริมภูมิต้านทานโรค, ช่วยสร้างและซ่อมแซมการทำงานของร่างกาย ช่วย

เสริมสร้างภูมิต้านทาน จากสังกะสี(zinc)


13. ไทอะมินหรือ วิตามินบี1 ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของสมอง ระบบประสาท 

ระบบย่อย หัวใจและกล้ามเนื้อ ช่วยเจริญอาหาร ทำใให้ร่างกายแข็งแรง 


14. วิตามินบี 2 หรือ ไรโบเฟลวิน มีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ป้องกัน

ไขมันอุดตันในเส้นเลือด อันเป็นสาเหตุให้เส้นเลือดแข็งตัว ขจัดไขมันชนิดอิ่มตัว

ในเส้นเลือด


15. ไนอะซิน หรือ วิตามินบี3 รักษาโรคทางจิตและโรคเกี่ยวกับความผิดปกติ

ทางสมอง และช่วยลดความดันโลหิตปวดหัวไมเกรน ข้ออักเสบ


16. สร้างภูมิต้านทานแอนติบอดี และช่วยสร้างเซลล์โลหิตใด้ดียิ่งขึ้น บรรเทา

โรคที่เกิดจากระบบประสาทและผิวหนังแก้การเป็นตะคริว  จาก วิตามินบี6 


17. โฟเลท ป้องกันโรคเหน็บชา ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ตามปกติ ช่วยให้

กล้ามเนื้อในกระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น บำรุงผิวหนัง เส้นผม ตา ปาก 

และตับ


18. วิตามินบี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และป้องกันโรคโลหิตจาง ความจำ และ

การทรงตัว เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้


19. วิตามินเอ ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ลดการอักเสบของสิว และช่วยลบจุดด่างดำ 

บรรเทาโรคเกี่ยวกับไทรอยด์


20. วิตามินเค ช่วยป้องกันเลือดออกภายในและเลือดออกไม่หยุด; ช่วยบรรเทา

อาการประจำเดือนมามากกว่าปกติ ช่วยสร้างลิ่มเลือดและการแข็งตัวของเลือด


เห็นหรือยังครับว่าผักโขมนั้นมีสรรพคุณและประโยชนืสารอาหาร มากแค่ไหน 

อย่าลืมที่จะกินมันบ้างนะครับ ประโยชน์มากมายจริงๆสำหรับผักโขม





ถั่วงอก ประโยชน์ และสรรพคุณ




ถั่วงอก ประโยชน์ และสรรพคุณ

      ถั่วงอก (อังกฤษ: bean sprout) คือ ต้นถั่วที่มีรากงอกจากเมล็ด เช่น ถั่วเขียว

ถั่วดำ ถั่วเหลือง (ถั่วงอกหัวโต) ถั่วลันเตา (โต้วเหมี่ยว) เป็นต้น ถั่วงอกเป็นผักชนิด

หนึ่งและมีคุณค่าทางอาหารสูง ได้แก่ โปรตีน วิตามินบี วิตามินซี ใยอาหาร เหล็ก

มีโปรตีนและไขมันสูง ซึ่งประเทศแรกของโลกที่มีการเพาะถั่วงอกหัวโต  ก็คือ

ประเทศจีน



ถั่วงอก เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่หากินง่ายอีกชนิดนึง ไม่แพ้ตำลึง มักหาทานได้

ตามร้าน ก๊วยเตี๋ยว ตามร้านค้าหรือเพาะเองก็ยังได้ปลูกง่ายอีกด้วยเอามาผัดกับ

เลือดหมูหรือ หมู ก็อร่อยไม่แพ้กัน


ประโยชน์และสรรพคุณของถั่วงอก


1. สารเลซิธิน (Lecithin) ช่วยบำรุงประสาทและการทำงานของสมอง


2. ออซินอน (Auxinon) มีคุณสมบัติช่วยบำรุงร่างกายเป็นหนุ่มสาวได้นาน

ไม่แก่ก่อนวัย


3. ช่วยกระตุ้นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นภายในร่างกาย ช่วยป้องกันการ

เกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้


4. ช่วยลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย

จึงส่งผลให้ลดความเสี่ยงต่อหลอดเลือดในสมองและโรคหัวใจวายได้


5. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย ป้องกันหวัด จากวิตามินซี


6. ช่วยดับร้อนและปรับสมดุลของร่างกายได้เป็นอย่างดี


7. ช่วยขับเสมหะ ทำให้ปอดโล่ง และขับปัสสาวะ


8. เป็นอาหารที่ย่อยง่าย ส่งผลดีต่อกระเพาะอาหารของเรา


9. ป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน หรือโรคลักปิดลักเปิด จากสาร

อาหารอย่างวิตามินซี


10. กำจัดของเสียหรือสิ่งตกค้างในร่างกายได้ (Toxin)


11. วิตามินบี 12 ช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์


12. ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ (จากสารต้านอนุมูลอิสระ )


13. ทำให้ผิวชุ่มชื้น ผิวนุ่ม เปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล (วิตามินอี)


14. เพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย


15. บำรุงกระดูกและฟัน


ข้อแนะนำ ควรรับประทาน ถั่วงอกปลอดสารพิษนะจ๊ะ เดี๋ยวจากที่จะได้ประโยชน์

จะได้โทษมาแทน




ตำลึง อาหารเพื่อสุขภาพริมรั้ว





ตำลึง ประโยชน์ สรรพคุณ


      ตำลึง มีประโยชน์อย่างไร มีสรรพคุณ เหมาะสมกับเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างไร

บ้างเชิญอ่านได้เลยจ้าไม่ยาวไม่สั้น ทุกท่านเข้าใจแน่นอน

ตำลึง  (ชื่อวิทยาศาสตร์: Coccinia grandis (L.) Voigt) เป็นไม้เถาขนาดกลาง ไม้

เลื้อยจับตามรั้วหรือหลักต่างๆใบรูปหัวใจเว้า มีเขียว ดอกสีชาว ผลเหมือนแตงกว่า

หรือเล็กกว่า สุกเต็มที่มีสีแดง เป็นผักสวนครัวริมรั้วเป็น อาหารเพื่อสุขภาพที่หากิน

ได้ง่ายอีกชนิดนึงบทความที่แล้วพูดเรื่อง ตะลิงปลิงไป ค่อนข้างเปรี้ยว มาบทความนี้

ตำลึงที่นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่างโดยเฉพาะแกงจืดตำลึงหมูสับ ใส่เต้าหู้ไข่

อร่อยเหาะเลยหล่ะ



สารอาหารในตำลึง


ประกอบไปด้วย วิตามินแคลเซียม  โปรตีน ไขมัน  คาร์โบไฮเดรต  ฟอสฟอรัส  เหล็ก

วิตามิน และอื่นๆ


ประโยชน์และสรรพคุณของตำลึง 


1. แคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน


2. ใบใช้ในการแก้ไข้ตัวร้อน ตาแดง ตาเจ็บ ดับพิษร้อน


3. แก้ปวดแสบปวดร้อนแก้คัน


4. เถานำน้ำต้มจากเถาตำลึงมาหยอดตาแก้ตาแดง ตาฟาง ตาช้ำ


5. ยาระบาย ย่อยง่าย แก้ท้องผูก ขับพิษในลำไส้ ระบายท้อง


6. ปัจจัยสำคัญในการเผาผลาญ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน คือเป็นตัวประสาน

ของเอนไซม์


7. ตำลึงบำรุงสายตา จากวิตามินเอ


8. เบตาแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นสารต้านมะเร็ง เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน


9. บำรุงเลือดและช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดี


10. เมล็ดสามารถนำเอามาตำผสมมะพร้าวแก้หิด


11. เถาตำลึง นอกจากช่วยแก้ตาฟาง ตาช้ำ ตาแฉะแล้ว ยังเอามาแก้อักเสบ ชงกับ

น้ำดื่มแก้วิงเวียนศรีษะได้อีกด้วย


12. ใช้เป็นยารักษาอาการแพ้ อักเสบ แมลงสัตว์กัดต่อย เช่น ยุงกัด ถูกตัวบุ้ง

ใบตำแย


13. ป้องกันโรคโลหิตจาง จากธาตุเหล็ก


14. ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและการเจริญเติบโตของร่างกาย


15. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต้านทานโรคและอาการเจ็บป่วย

ต่างๆ จากธาตุเหล็กเช่นกัน


เห็นมั้ยครับ ตำลึงอาหารผัก เพื่อสุขภาพใก้ลตัวมีประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียวเหมือนกัน




ตะลิงปลิง เปรี้ยวปรี๊ด ประโยชน์ป๊าด



ตะลิงปลิง ประโยชน์ สรรพคุณ


ตะลิงปลิง  Cucumber Tree , Bilimbi

    ตะลิงปลิงเป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 5-10 เมตร จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับมะเฟือง

ใบย่อยรูปหอก สีเขียว มีรสเปรี้ยว พบได้ตามป่าดิบชื้อ หรือปลูกไว้ตามบ้านเพื่อไว้

ประกอบอาหารก็ได้ บทความที่แล้วพูดถึงต้นหอมไปที่เป็นผัก เพื่อ สุขภาพ

มาดูตะลิงปลิง ที่เปรี้ยวปรี๊ดกันว่ามีส่วนช่วยอะไรได้บ้างกับสุขภาพเรา



สารอาหารใน ตะลิงปลิง 


แคลเซียม 1 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 6 มิลลิกรัม เหล็ก 0.2 มิลลิกรัม  วิตามินเอ 267

หน่วยสากล (IU)  วิตามินบีหนึ่ง 0.03 มิลลิกรัม  วิตามินบีสอง 0.09 มิลลิกรัม

ไนอะซิน 0.7 มิลลิกรัม  วิตามินซี 2 มิลลิกรัม


สรรพคุณและประโยชน์ของ ตะลิงปลิง


1. ใบ : แก้ลำไส้ใหญ่อักเสบ


2. ใบ : ไขข้ออักเสบ


3. ใบ : แก้กามโรค รักษาซิฟิลิส


4. ใบ : ใช้พอกแก้คัน รักษาสิว แก้คางทูม


5. ดอก : มีรสเปรี้ยวนำมาชงเป็นชาแก้ไอ


6. ผล : รสเปรี้ยว ช่วยเจริญอาหาร บำรุงร่างกาย บำรุงสมอง


7. ผล : แก้เลือดออกตามไรฟัน จากวิตามินซี และบรรเทาอาการโรคปวดกระดูก

แก้ลักปิดลักเปิด


8. ผล : รักษาริดสีดวงทวาร


9. ผล : แก้ไอ แก้ไข้ ขับเหงื่อ ลดเสมหะ


10. ผล :  ฟอกโลหิต ยาบำรุงแก้ปวดมดลูก






วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

ต้นหอม ประโยชน์ สรรพคุณ



ต้นหอม ประโยชน์ สรรพคุณ

     ต้นหอม  เป็นพืชในสกุล Allium ที่สามารถรับประทานได้ตระกูลเดียวกับกระเทียม

เป็นอาหารเพื่อสุขภาพอีกชนิดนึง มักนิยมนำเอาต้นหอมไปใส่ในแกงเป็นผักเคียง บน

แกงจืด ต้มยำ ลาบ โรยหน้าเพื่อความสวยงามหรือกินสดๆเป็นเครื่องเคียงก็ยังได้

เปาะเปี๊ยะสดหรือข้าวหมูแดง หรือนำไปใส่โรยบน ข้าวผัด กินเคียงไปด้วย โรยบน

โจ๊กมีกลิ่นหอม มีกลิ่นฉุน รสซ่า บทความที่แล้วเราเขียนถึง ประโยชน์ของคะน้า

ไปแล้ว วันนี้เรามาพูด สรรพคุณและประโยชน์ของต้นหอมกันบ้างครับ



ประโยชน์และสรรพคุณที่ได้จากต้นหอม


ต้นหอมนั้นมีสารอาหารต่างๆมากมาย เช่น เบต้าแคโรทีน  วิตามินซี   แคลเซียม


ฟอสฟอรัส


1. มีน้ำมันหอมระเหย  บรรเทาอาการหวัด


2. มีสารฟลาโวนอยด์ต้านมะเร็ง


3. ช่วยป้องกันอาการท้องผูกและลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด


4. ช่วยต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย


5. ลดความเสี่ยงจากอาการโรคกระดูกพรุน เพราะมี แคลเซียมและฟอสฟอรัส


6. ป้องกันภาวะโลหิตจาง


7. ขับเหงื่อ แก้อักเสบบวมแดง ป้องกันโรคหวัดเย็น


8. แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ขับพยาธิ


9. มีสารเคอร์ซิติน ให้ฤทธิ์ในการป้องกันการอักเสบ ป้องกันแบคทีเรีย และไวรัส ช่วย

ป้องกันอาการแพ้ ป้องกันมะเร็ง ชะลอความชรา ซึ่งสามารถป้องกันอาการภูมิแพ้ได้


10. ใช้แก้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล  ลดไข้


11. ใช้ตำพอกผิวหนังแก้แมลงสัตว์กัดต่อย


12. ระตุ้นให้หลั่งน้ำนม เพิ่มน้ำนม


13. สามารถลดไขมันในเส้นเลือดได้


14. ฝีหนองบวมปวด รักษาอาการฟกช้ำ




วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

คะน้า อร่อยดีมีประโยชน์



คะน้า อร่อยดีมีประโยชน์

    คะน้า หรือ Kai-lan , Chinese broccoli , Chinese kale เป็นพืชผักใบเขียวที่เป็น

ที่นิยมของคนไทยส่วนใหญ่กินกันได้ทุกมื้อ มีทุกที่ตามร้านอาหาร มีทั้งแบบ

พันธุ์ใบกลม , พันธุ์ยอดหรือก้าน , พันธุ์ใบแหลม  หากินง่ายสะดวก ทำอาหารก็อร่อย

นับว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ อีกชนิดที่หาทานได้ง่ายใกล้ตัวมาก บทความที่แล้ว

เสนอเรื่องข้าวโพดอ่อน ไปแล้ว มาบทความนี้จัดคะน้ากันบ้างครับผม

คะน้า อร่อยดีมีประโยชน์


สารอาหารในคะน้า ได้แก่


ผักคะน้า มีสารอาหารประกอบไปด้วย


โปรตีน  ไขมัน คาร์โบไฮเดรต  เส้นใย  แคลเซียม  ฟอสฟอรัส  ธาตุเหล็ก  เบต้า-แคโรทีน

วิตามินเอ  วิตามินบี1  วิตามินบี2  ไนอะซิน  วิตามินซี


ประโยชน์ที่จะได้รับจากคะน้าคือ 


1. คะน้ามีสารต้านอนุมูลอิสระทั้งวิตามินซี และ เบต้าแคโรทีนลดความเสี่ยงต่อภาวะ

มะเร็ง บำรุงสุขภาพของดวงตา  ชะลอความแก่


2. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด และ

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ


3. รักษาสุขภาพและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง


4. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา (วิตามินเอ)


5. มีแคลเซี่ยมช่วยเสริมสร้างกระดูก


6. คะน้าให้โฟเลตและธาตุเหล็กสูง ซึ่งสารทั้งสองชนิดนี้จำเป็นต่อการสร้างเม็ด

เลือดแดง


7. ช่วยลดอาการกระดูกพรุน


8. ทำให้ผิวนุ่นเนียน เต่งตึง สดชื่นอยู่ตลอดเวลา


9. ทำให้เลือดแข็งตัวเร็วขึ้นเวลามีแผล


10. วิตามินซีมีหน้าที่ในการช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย


11. ช่วยป้องกันโรค โรคลักปิดลักเปิด


12. ขับถ่ายคล่อง และมีน้ำตาลน้อยเหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมอาหารหรือเป็นโรค

เบาหวาน


13. ควบคุมความดันเลือดจากประโยชน์ของแคลเซียม


14. ควบคุมน้ำหนักตัว


15. ฟอสฟอรัสเป็นสารอาหารที่มีอยู่ในอาหารเกือบทุกชนิด ซึ่งมีส่วนช่วยความ

แข็งแรงของกระดูกและฟัน เผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ควบคุมการทำงานของไต

และระบบประสาท


เห็นมั้ยครับคะน้ามีประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียวทุกท่านคงรู้แล้วว่าคะน้านั้น

มีประโยชน์เอามาทำอาหารชนิดใดได้บ้าง กินผักคะน้ากันเยอะๆนะครับ


ข้อควรระวัง

ในผักคะนั้นในพบ สารกอยโตรเจน (goitrogen) ซึ่งบริโภคมาก ๆ จะทำให้ท้องอืด

และระวังเรื่องสารพิษปนเปื้อนจากการปลูกด้วยนะครับพวกสารเคมีหนะให้ดีหาซื้อ

จากพวกปลอดสารพิษจะดีที่สุด




วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

ข้าวโพดอ่อน ของดีมีประโยชน์



ข้าวโพดอ่อน ของดีมีประโยชน์

       ข้าวโพดอ่อน ของอร่อยประโยชน์มากมี จากบทความที่แล้วเรานำเสนอเรื่อง

ราวเกี่ยวกับ ประโยชน์ของกุยช่าย กันไปแล้ว มาบทความนี้เอาข้าวโพดอ่อน

แสนอร่อยที่เป้นส่วนประกอบของเมนูต่างๆ มาให้ผู้อ่านได้รับทราบกันบ้างว่ามัน

มีประโยชน์อย่างไร เหมาะแค่ไหนกับคำว่า อาหารเพื่อสุขภาพ



ข้าวโพดอ่อน หรือ ZEA MAYS LINN. อยู่ในวงศ์ PO-ACEAE เป็นพืชจัดอยู่ในพวกหญ้า

ถิ่นกำเนิดจากทวีปอเมริกาใต้ ถูกนำเข้ามาปลูกและเพาะขยายพันธุ์ในประเทศไทยมา

เนิ่นนานแล้ว


สารอาหารในข้าวโพดอ่อน ประกอบด้วย 


 - โปรตีน , ไขมัน , คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม , ฟอสฟอรัส , เหล็ก , เบต้า-แคโรทีน

ไทอะมีน ,  ไนอะซิน , วิตามินซี


ประโยชน์ของข้าวโพดอ่อน


1. กินข้าวโพดอ่อนเป็นประจำ จะช่วยลดคลอเรสเตอรอลในเลือด


2.  มีแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน


3. ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย จากโปรตีน


4. ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย จาก

   วิตามินซี


5. ดูแลรักษาผิวพรรณมีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันผิวเหี่ยวย่น และป้องกันมะเร็ง


6. บำรุงสายตาและตับ รวมไปถึงป้องกันโรคต้อกระจก จาก เบต้าแคโรทีน


7. ไทอะมิน หรือ วิตามินบี1 ซึ่งมีความจำเป็นต่อการทำงานของสมอง ระบบประสาท

   ระบบย่อย หัวใจและกล้ามเนื้อ ช่วยให้เจริญเติบโตร่างกายแข็งแรง


8. ไนอะซิน หรือ กรดนิโคตินิก ช่วยทำลายพิษหรือท็อกซินจากมลพิษ แอลกอฮอล์

   และยาเสพติด บรรเทาอาการในผู้ป่วยเบาหวานปวดหัวไมเกรน  ข้ออักเสบ ช่วย

   ลดความดันโลหิตสูงประจำ


9. ช่วยดูแลเหงือกและฟัน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเผาผลาญไขมันและแป้งนำไป

   เป็นพลังงานให้ร่างกายได้เอาไปใช้ จากฟอสฟอรัส


10. เสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยภูมิต้านทาน รักษาภาวะโลหิตจาง

     และดูแลผิวพรรณ จากธาตุเหล็ก


ข้าวโพดอ่อนนั้น สามารถนำไปประกอบอาหารที่แสนอร่อยได้หลายอย่างแถม

ยังทานง่ายอีกด้วย ทั้งอร่อยและประโยชน์มากมายเช่นนี้อย่าลืมทานข้าวโพดอ่อน

กันด้วยนะครับ





วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

กุยช่าย 10 ประโยชน์ของ กุยช่าย



ประโยชน์ของ กุยช่าย


    กุยช่าย 10 ประโยชน์ของ กุยช่าย

กุยช่าย หรือที่คนอีสานรู้จักกันดีในชื่อว่า “ผักแป้น” ( อังกฤษ: Garlic chives; 

ชื่อวิทยาศาสตร์: Allium tuberosum Rottl. ex Spreng) เป็นไม้ล้มลุก สูง 30-45 ซม.

มีเหง้าเล็กและแตกกอ ใบแบน เรียงสลับ รูปขอบขนาน ยาว 30-40 ซม. โคนเป็นกาบ

บางซ้อนสลับกัน ช่อดอกแบบซี่ร่ม ก้านช่อดอกกลมตันยาว 40-45 ซม.



โดยปรกติจะยาวกว่าใบ ดอกสีขาว กลิ่นหอม ออกในระดับเดียวกันที่ปลายก้านช่อดอก

พบมากแถว เอเชียตะวันออกแถบภูเขาหิมาลัย อินเดีย จีน และญี่ปุ่น ในไต้หวันมีปลูก

2 พันธุ์ คือพันธุ์สีเขียวที่ปลูกทั่วไป และพันธุ์ใบใหญ่สีขาวซึ่งเกิดจากการบังร่ม บทความ

ที่แล้วเราพูดถึงกะเพราไป วันนี้เรามาพูดถึงประโยชน์ของกุยช่ายกันต่อเลย


ชื่อของกุยช่ายเรียกแตกต่างกัน เช่น กูไฉ่ , กุยช่าย , หอมแป้น , หัวแป้น , หัวชู


สารอาหารใน กุยช่าย ได้แก่  วิตามิน เอ  ธาตุเหล็ก  ฟอสฟอรัส  แคลเซียม เบต้า-

แคโรทีนและมีสาร โอดอรีน (Odorine)สาร ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid)  และสารในกลุ่ม

ออร์แกโนซัลเฟอร์ (Organosulfur)  เช่น สารแอลลิซิน (Allicin) แอนติออกซิแดนต์

 (Antioxidant)


ประโยชน์ของกุยช่าย


1. ลดไขมันในเลือด


2. สร้างภูมิคุ้มกันโรค จากวิตามินเอ


3. ธาตุเหล็กในกุยช่าย ที่เป็นส่วนประกอบในของฮีโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดง

ซึ่งจะทำหน้าที่นำออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงเซลล์ของร่างกายและช่วยขจัดแก๊ส

คาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกายทางลมหายใจออก (ฮีโมโกลบินหรือเฮโมโกล

บิน คือส่วนหนึ่งของระบบไหลเวียนโลหิตซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญจะอยู่ในเม็ดเลือดแดง

และช่วยนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย)


4. ธาตุเหล็กยังช่วยในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยแก้อาการ

อ่อนเพลีย


5. ยับยั้งการก่อตัวของเนื้องอกและรวมทั้งเซลล์มะเร็ง กุยช่ายช่วยลดเสี่ยงมะเร็งต่อม

ลูกหมาก , หลอดอาหาร , กระเพาะอาหาร , มะเร็งลำไส้ใหญ่


6.  ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ สาร โอดอรีน (Odorine) ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของ

แบคทีเรีย


7. ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย  และยังช่วยบำรุงกระดูก  และแก้ลมพิษ


8.  ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด  ลดระดับความดันโลหิต จาก แอลลิซิน (Allicin)

ซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหยของกุยช่าย


9. ใบของกุยช่ายยังช่วย แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ฟกช้ำบวม อาการแน่นหน้าอก

อาเจียนเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด


10. เอาน้ำที่คั้นสดๆจากใบหยอดหูเพื่ออไล่แมลงที่เข้าหูได้ นอกจากนี้ยังใช้รักษาโรค

หูน้ำหนวกอีกด้วย  ฆ่าเชื้อแผลสด แก้บิด ผื่นคันตามตัว มดลูกหย่อน


    นับว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอีกอย่างนึงเลยทีเดียว สามารถนำไปประกอบอาหาร

ได้หลายอย่างเช่น ขนมกุยช่าย  ผัดไทย หรือรับประทานสดๆก็ได้เป็นผักเกร็ด


 * และยังมีประโยชน์อีกมากมายจากทั้งเมล็ด ที่ช่วย ขับพยาธิ บำรุงตับ แก้ปวด

แก้หนองใน ขับนิ่ว เหง้าของมันก็ยังช่วย แก้เจ็บหน้าอก ระดูขาว ขับประจำเดือน

แก้ฟกช้ำบวม แก้กลาก  หันมากินกุยช่าย จะสามารถช่วยให้เลือดลมเดินได้สะดวก

ปรับร่างกายได้ดีอีกอย่างนึงเลยทีเดียว




วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

กะเพรา มีประโยชน์อย่างไร




กะเพรา มีประโยชน์อย่างไร


กะเพรา มีประโยชน์อย่างไร ( เขียนว่า กะเพรา นะครับไม่ใช่ กระเพรา)


กะเพรา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Ocimum sanctum) เป็นไม้ล้มลุก แตกกิ่งก้านสาขา

สูง 30-60 ซม. นิยมนำใบมาประกอบอาหารคือ ผัดกะเพรา หรือจะทำเป็นน้ำดื่มโดยใส่

ลงในน้ำร้อน ดื่มเพื่อสุขภาพก็ย่อมได้ กะเพรามี 3 พันธุ์ คือ กะเพราแดง กะเพราขาว

และ กะเพราลูกผสมระหว่างกะเพราแดงและกะเพราขาว

กะเพรา มีประโยชน์อย่างไร


บทความที่แล้วเราพูดถึง ผักที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบเยอะ อย่าง แตงกวาไปแล้ววันนี้

เรามาดูผักที่ต้องใช้น้ำหรือของเหลวและความร้อนช่วยในการดึงคุณค่ามันออกมาบ้าง

อย่างกะเพรา


ประโยชน์ของกระเพรา


ใบของกะเพรา


1. บำรุงธาตุไฟธาตุ


2. ขับลม แก้ปวดท้อง


3. แก้ลมตานซาง


4. ขับลมจุกเสียด แก้จุกเสียด อาการคลื่นเหียนอาเจียน


5. น้ำที่คั้นจากใบ ช่วยขับเหงื่อ แก้ไข้ ขับเสมหะ หรือน้ำชงใบกระเพราะช่วยเจริญ

   อาหารเป็นน้ำมันหอมระเหยได้ดี


6. เอามาทาผิวหนัง แก้ กลาก เกลื้อน หยอดหูก็สามารถแก้อาการปวดหูได้


7. ใบของกะเพรา จะสดหรือแห้งก็สามารถนำมาชงเป็นชาดื่ม ช่วยบำรุงธาตุ ขับลม

   ในเด็กได้


8. นอกจากนี้กะเพรายังมีสาร เบตาโคโรทีน  ในปริมาณที่มาก ซึ่งจะช่วยให้รักษา

   สุขภาพและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ยังทำหน้าที่เสมือนเป็นสารต้านอนุมูล

   อิสระซึ่งมีผลต่อเราแล้วหรือยัง เช่น ผิวเริ่มเหี่ยวย่น ไม่ผ่องใส แลดูหมอง


9.ลดความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง


10. บำรุงสุขภาพของดวงตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกด้วย


11.  ความร้อนจากใบกะเพราช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้มีน้ำนมมากขึ้น

   ได้อีกด้วย


12. นอกจากมี เบต้า เคโรทีนสูงแล้วยังมีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส เส้นใย

   อาหารสูง อีกด้วย


** กะเพรา สามารถนำไปทำอาหารเพื่อสุขภาพได้หลายอย่างเลยทีเดียว  เช่น

แกงเลียงใส่ใบกะเพราะ  อกไก่ผัดกะเพราในน้ำมันมะกอก หมูผัดสมุนไพร หรือ

ดัดแปลงใส่ลงในสปาเก็ตตี้ก็ยังได้อีกด้วย ชงน้ำดื่มแก้กระหาย ก็เป็นอีกทางเลือก

ล้างให้สะอาดบิดให้น้ำมันจากใบกะเพราออกมาเล็กน้อยใส่ลงในน้ำร้อนก็เพียงพอแล้ว




วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557

แตงกวา กินแล้วดูดีสรรพคุณประโยชน์มากมี




แตงกวา Cucumber

    แตงกวา เป็นไม้เลื้อยในวงศ์ Cucurbitaceae (ตระกูลเดียวกันกับแตงโม ฟักทอง 

บวบ มะระ น้ำเต้า) นิยมปลูกเพื่อใช้ผลเป็นอาหาร มีอายุตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว

30-45 วันสามารถทำมาทำแกงจืด ผัด หรือนำมาเป็นผักเคียงกินกับน้ำพริกหรือเอามา

อยู่ในรูปของแตงกวาดองก็ยังได้ แถมยังไปอยู่ ในผลิตภัณฑ์เสริมความงามอีกหลายๆ

อย่าง (วันก่อน เรานำเสนอเรื่อง แครอทไปแล้วมาวันนี้แตงกวาบ้าง มีประโยชน์ไม่แพ้

แครอทกันเลย)

แตงกวา กินแล้วดูดีสรรพคุณประโยชน์มากมี


สารอาหารในแตงกวา มีอะไรบ้าง


วิตามินซี กรดคาเฟอิก วิตามินเอ เบต้า เคโรทีน วิตามินอี  วิตามินบี 1 วิตามินบี 2

ไนอะซิน และแร่ธาตุจำเป็น เช่น ซิลิกา โพแทสเซียม โมลิบดีนัม แมงกานีส

แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และแมกนีเซียม 


สารอาหารและประโยชน์ที่ได้รับจากแตงกวา


1. ทำให้ร่างกายสดชื่น : ช่วยแก้กระหายทำให้ร่างกายสดชื่นลดอาการขาดน้ำได้ เพราะ

แตงกว่าประกอบด้วยน้ำถึง 90 เปอร์เซ็นต์ 


2. แก้ร้อนใน : อย่างที่น้องคนนึงบอกว่าเป็นร้อนในต้องรีบไปหาหมอ ช้าก่อน !!! ได้ลอง

แตงกวารึยังกินบ่อยๆ จะช่วยลดอาการร้อนในได้ชงัดนักแล


3. โลชั่นสูตรเย็น : เมื่อโดนแดดเผาหรือต้องออกแดดจัดกลับมาแล้วรู้สึกผิวเกรียม

 นำแตงกวามาฝานบางๆประคบใบหน้าของเราที่โดนแดดเผาก็จะช่วยลดหรือบรรเทา

อาการลงได้


4. ลดคอเลสเตอรอล : ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล ในผู้ที่คุมน้ำหนักเพราะมีกากใยอาหาร

ให้พลังงานต่ำ


5. แก้ท้องเฟ้อ : ใบแตงกวา


6. บำรุงธาตุ : เป็นยาระบายขับปัสสาวะ  


7. แก้นิ้วในท่อปัสสาวะ ขัดเบา (อาการขัดเบาคืออาการเริ่มต้นของทางเดินปัสสาวะ

อักเสบ)


8. ทำให้ผิวชุ่มชื่น อ่อนนุ่ม ช่วยลอกฝ้าได้อีกด้วย


9. รากของแตงกว่าช่วยป้องกันการขาดวิตามินบี 1


10. ตำพอกแก้อักเสบ เพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวก็ได้นะ


11. บำรุงและช่วยในระบบการย่อยอาหาร


12. ป้องกันการสะสมน้ำเกินจำเป็นในร่างกาย 


13. เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เบต้า เคโรทีน เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ดี


14. ช่วยในระบบย่อยอาหาร ลดความอ้วน มีความสำคัญต่อประสาทและสมอง จาก

ไนอะซิน


15. ไนอะซิน (วิตามินบี3) ในแตงกวายังช่วยยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน ลดความดัน

โลหิตช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดียิ่งขึ้นบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องร่วง และ

อาการร้อนใน (ที่ได้บอกไปในเบื้องต้น) รวมถึงเรื่องกลิ่นปาก


16. ช่วยทำลายพิษหรือท็อกซินจากมลพิษ แอลกอฮอล์และยาเสพติด


17. ซิลิกาในแตงกวาเป็นองค์ประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อสุขภาพกันซึ่งรวมถึงกล้ามเนื้อ,

กระดูกอ่อนและกระดูก ช่วยบำรุงหัวใจและช่วยสร้างเสริมกระดูกและฟัน  .


18. ซิลิกาในแตงกวายังช่วยลดอาการผมร่วง ได้อีกด้วย 


19. โมลิบดีนัมมีส่วนช่วยในกระบวนการเผาผลาญอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและ

ไขมัน และเป็นส่วนสำคัญของเอนไซม์ที่เป็นส่วนสำคัญในการเอาธาตุเหล็กมาใช้งาน


20. โมลิบดินัม ยังเป็นตัวช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้


21. แมงกานีสในเปลือกแตงกวาช่วยควบคุมความดันเลือดและความสมดุลของสารอาหาร

ในร่างกาย ช่วยเรื่องการทำงานของสมองระบบประสาท และ ระบบกล้ามเนื้อป้องกันโรค

ความจำเสื่อม ความจำสั้น (แต่รักฉันยาว ) แหนะ ช่วยเรื่องความจำได้ดี 


    *** รวมไปถึงคุณลักษณะที่มีประโยชน์อย่างอื่นซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีต่อร่างกาย อยู่แล้ว

อย่างเช่น วิตามินซี  วิตามินอี  วิตามินบี 1 วิตามินบี 2  โพแทสเซียม  แคลเซียม

 ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และแมกนีเซียม แตงกวาอร่อย บำรุงผิวก็ได้ รากก็เป็นยา ใบก็

เป็นยา ผลก็อร่อยเอามาบำรุงผิวได้อย่างดี นับว่าเป็น อาหารเพื่อสุขภาพผัก ผลไม้ที่มี

ประโยชน์ต่อสุขภาพไม่แพ้อย่างอื่นเลยทีเเดียว แต่ทุกอย่างเมื่อรับเข้าไปในปริมาณที่

พอดีก็จะดีต่อร่างกายนะครับ ไม่มากไม่น้อยเกินไปรับรองสุขภาพดี