วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2568

ประโยชน์ของมะม่วง

 


ประโยชน์ของมะม่วง


มะม่วงมีประโยชน์มากมาย เช่น เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันด้วยวิตามินซี 


ปรับปรุงระบบย่อยอาหารด้วยใยอาหาร บำรุงสุขภาพดวงตาด้วยวิตามินเอและเบตาแคโรทีน 


และส่งเสริมสุขภาพหัวใจด้วยโพแทสเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล


และความดันโลหิต สารต้านอนุมูลอิสระในมะม่วงยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ 


ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งและการอักเสบ ในขณะที่ปริมาณน้ำและใยอาหารที่สูง


ยังช่วยควบคุมน้ำหนักและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม


มะม่วง เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาอีกเพียบ


🌿 สารอาหารเด่นในมะม่วง

วิตามินซี: ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและต้านอนุมูลอิสระ


วิตามินเอ: บำรุงสายตาและผิวพรรณ


เบต้าแคโรทีน: ช่วยชะลอวัยและฟื้นฟูเซลล์


ไฟเบอร์: ส่งเสริมระบบขับถ่าย


โพแทสเซียม, แคลเซียม, ธาตุเหล็ก: บำรุงหัวใจและระบบประสาท


💪 ประโยชน์ต่อสุขภาพ


เพิ่มพลังงาน: น้ำตาลธรรมชาติในมะม่วง (กลูโคส, ฟรุกโตส, ซูโครส) ให้พลังงานทันทีโดยไม่สะสมไขมัน


ช่วยระบบย่อยอาหาร: ไฟเบอร์สูง ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และบิด


ต้านมะเร็ง: มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม ลำไส้ และปอด


บำรุงสายตาและผิวพรรณ: วิตามินเอและซีช่วยให้ผิวสดใสและมองเห็นชัดเจน


ลดความเครียด: มะม่วงสุกมีรสหวานหอม ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและนอนหลับดีขึ้น


ควบคุมน้ำหนัก: เป็นผลไม้ไขมันต่ำ กินแล้วอิ่มเร็วแต่ไม่อ้วน


🧪 สรรพคุณทางยา (จากส่วนอื่นของต้นมะม่วง)


ใบมะม่วง: ใช้ต้มดื่มเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน


เปลือกต้น: ใช้ต้มแก้ไข้ตัวร้อนและอาการอักเสบในช่องปาก


เมล็ดแห้ง: บดเป็นผงช่วยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ


มะม่วงกินได้ทั้งดิบและสุก แถมยังนำไปแปรรูปได้หลากหลาย เช่น มะม่วงกวน มะม่วงดอง ข้าวเหนียวมะม่วง



มะม่วงมีวิตามินเอสูงซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพดวงตา และเบต้าแคโรทีนที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น 


วิตามินซีในมะม่วงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยมที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย 


ใยอาหารในมะม่วงช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นและป้องกันอาการท้องผูก 


โพแทสเซียมในมะม่วงมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายและช่วยควบคุมความดันโลหิต


ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ 


เอนไซม์บางชนิดในมะม่วงช่วยย่อยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพ 


สารต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบอื่นๆ ในมะม่วงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบซึ่งช่วยต่อสู้กับการอักเสบในร่างกาย


ข้อควรระวัง 


มะม่วงสุกมีน้ำตาลสูง ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง


มะม่วงดิบมีรสเปรี้ยว หากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้ปวดท้องหรือท้องเสียได้